ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกคำสั่งปรับปรุงการคิดดอกเบี้ยและการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม โดยมีการปรับปรุงค่าปรับการไถ่ถอนสินเชื่อก่อนกำหนด, ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้และค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิต
1. ค่าปรับการไถ่ถอนสินเชื่อก่อนกำหนด (Prepayment) ถูกปรับใหม่ให้คิดค่าปรับจากยอดเงินต้นคงเหลือแทนจากเดิมที่คิดค่าปรับจากฐานวงเงินสินเชื่อทั้งก้อน
2.ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ (Installment) ถูกปรับใหม่ให้คิดดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้บนค่างวดส่วนที่เป็นเงินต้นของค่างวดนั้นแทนจากเดิมที่คิดบนฐานของเงินต้นคงเหลือ
3.ค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเดบิต ในกรณียกเลิกการใช้บัตร ผู้ใช้บริการจะได้รับค่าธรรมเนียมรายปีตามสัดส่วนระยะเวลาคงเหลือของบัตรแก่ผู้ใช้บริการโดยไม่ต้องให้ผู้ใช้บริการร้องขอากเดิมที่ไม่มีการคืนส่วนต่างหรือคืนเมื่อร้องขอเท่านั้น
การปรับปรุงใหม่ทั้ง 3 หัวข้อนี้ทางธนาคารมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือลดภาระหนี้สินของประชาชนและ SME
